The Great Outdoors: Learning Beyond the Classroom

At SBS International School Bangkok, experiential learning is more than a philosophy — it’s a lived experience. In this reflective piece, our Head of School explores how outdoor play and real-world exploration enrich children’s development, strengthen resilience, and deepen their connection with the natural world.

[ติดตามภาษาไทยด้านล่าง]

As we bring to life the principles of the Cambridge International curriculum at SBS Bangkok, I want to highlight the importance of experiential learning within our school environment. When I recall my own learning experience it was mostly in one place (the classroom); listening to one voice (the teacher); utilising the same resources (a text book, note book, and pen). Today, students are actively engaged in learning through direct experience in a multitude of learning environments. This ‘learning by doing’ approach contrasts with traditional, passive learning methods, and connects classroom theory and knowledge to real-world situations and environments. Perhaps the most underrated of all environments is the great outdoors.

Play is essential for a child’s cognitive, physical, social, and emotional development, serving as the primary way children learn about themselves and the world. Yet in recent years, there has been a significant decline in children playing outdoors. Many factors contribute to this including the rapid rise in technology and screen time; parental concerns about safety leading to more controlled and restrictive outdoor play; and increasing urbanisation limiting access to nature on our doorstep. This shift has seen a change in social norms and attitudes towards play, and nervousness around a ‘free-range’ experience in the natural environment.

At SBS Bangkok we believe that age-appropriate outdoor play in a secure and safe school environment is a fundamental component of a well-rounded education. Research and experience have consistently shown that time spent in natural, unstructured environments provides a multitude of benefits that directly support learning and wellbeing. The benefits include:

1. Health: In an era of increased screen time, outdoor play offers a vital opportunity for children to be physically active. Activities that we see in the playground like running, jumping, climbing, and ball games are essential for developing gross motor skills, coordination, and balance. Equally, we know that the release of ‘action chemicals’ such as endorphins, positively influence children’s mental health and confidence. Our Active8 extra-curricular programme offers many activities that extend opportunities for outdoor play beyond the school day.
2. Cognitive Skills and Creativity: The unstructured nature of outdoor play is a powerful catalyst for a child’s imagination. When presented with an open space, a handful of sticks, or a patch of grass, children are free to invent games, create narratives, and solve problems. This open-ended discovery cultivates the 4 transferable skills that we believe are necessary for children of all ages – Collaboration; Communication; Critical Thinking; and Creativity.
3. Resilience: When a child falls and scrapes a knee, gets frustrated that a tower of blocks won’t stay up, or has to navigate a disagreement with a friend over the rules of a game, they’re learning to cope with setbacks in a low-stakes and controlled environment. These small moments of challenge and frustration teach them to problem-solve, adapt, and persevere without an adult immediately intervening to ‘fix’ the situation. This foundational self-reliance and self-regulation  is what builds the mental and emotional fortitude needed for students to tackle bigger problems and bounce back from adversity throughout their lives.
4. Connection with the Natural World: Spending time outdoors helps children develop a deep connection with, and appreciation of, the natural environment around them. Our lessons and playtime breaks capitalise on the outdoor learning spaces designed by Greendwell, our award winning architects, whose campus blueprint intentionally focuses on sustainability and wellbeing.

Outdoor play should never be a luxury or an afterthought. At SBS Bangkok we believe exposure to the great outdoors is a necessary and intentional part of the school day. Outdoor play is a time for students to stretch their bodies, calm their minds, and build the foundational skills they need to thrive both in and out of the classroom. I encourage you to join us in making outdoor time a priority in your child’s daily routine, as the benefits extend far beyond the playground.

ธรรมชาติภายนอกห้องเรียน

ในการนำหลักสูตร Cambridge International มาประยุกต์ใช้ที่ SBS Bangkok ผมอยากเน้นย้ำถึงความสำคัญของการเรียนรู้เชิงประสบการณ์ (experiential learning) ภายในสภาพแวดล้อมของโรงเรียน หากย้อนนึกถึงประสบการณ์การเรียนรู้ของผมเอง ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นในสถานที่เดียว (ห้องเรียน) ฟังเสียงเดียว (คุณครู) และใช้เพียงทรัพยากรเดิม ๆ (หนังสือ สมุด ปากกา) แต่ทุกวันนี้ นักเรียนมีส่วนร่วมในการเรียนรู้โดยตรง ผ่านสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย การเรียนรู้แบบ “ลงมือทำ” นี้แตกต่างจากการเรียนรู้แบบรับสารฝ่ายเดียว และช่วยเชื่อมโยงทฤษฎีในห้องเรียนเข้ากับสถานการณ์จริงในชีวิตประจำวัน หนึ่งในสภาพแวดล้อมที่มักถูกมองข้ามมากที่สุดก็คือ โลกกว้างกลางแจ้ง

การเล่นถือเป็นสิ่งจำเป็นต่อพัฒนาการด้านสติปัญญา ร่างกาย สังคม และอารมณ์ของเด็ก ๆ เป็นหนทางหลักที่เด็กเรียนรู้เกี่ยวกับตนเองและโลก แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา การเล่นกลางแจ้งของเด็ก ๆ ลดลงอย่างเห็นได้ชัด ปัจจัยต่าง ๆ ที่มีส่วนร่วม ได้แก่ การเพิ่มขึ้นของเทคโนโลยีและเวลาอยู่หน้าจอ ความกังวลเรื่องความปลอดภัยที่ทำให้การเล่นกลางแจ้งถูกจำกัดมากขึ้น และการขยายตัวของเมืองที่ลดพื้นที่ธรรมชาติรอบตัว การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ทำให้ทัศนคติและค่านิยมทางสังคมเกี่ยวกับ “การเล่นอิสระ” ในธรรมชาติลดลง

ที่ SBS Bangkok เราเชื่อว่าการเล่นกลางแจ้งอย่างเหมาะสมกับวัย ภายในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยของโรงเรียน เป็นองค์ประกอบสำคัญของการศึกษาที่รอบด้าน งานวิจัยและประสบการณ์แสดงให้เห็นอย่างต่อเนื่องว่า เวลาที่ใช้ในพื้นที่ธรรมชาติแบบอิสระมีประโยชน์มากมายที่สนับสนุนทั้งการเรียนรู้และความเป็นอยู่ที่ดี โดยสรุปคือ:

1. สุขภาพ: ในยุคที่เด็กใช้เวลาหน้าจอมาก การเล่นกลางแจ้งเปิดโอกาสสำคัญให้เด็กได้เคลื่อนไหว เช่น วิ่ง กระโดด ปีนป่าย เล่นบอล สิ่งเหล่านี้ช่วยพัฒนาทักษะการเคลื่อนไหว การประสานงาน และการทรงตัว อีกทั้งสารเคมีที่หลั่งออกมาเวลาทำกิจกรรม เช่น เอ็นดอร์ฟิน ยังช่วยส่งผลดีต่อสุขภาพจิตและความมั่นใจของเด็ก โปรแกรม Active8 ของเรายังเปิดโอกาสให้เด็กได้เล่นกลางแจ้งต่อเนื่องนอกเวลาเรียนอีกด้วย
2. ทักษะการคิดและความคิดสร้างสรรค์: การเล่นกลางแจ้งที่ไม่มีโครงสร้างตายตัว เป็นแรงกระตุ้นจินตนาการอันทรงพลังของเด็ก ๆ เพียงมีลานกว้าง กิ่งไม้ไม่กี่กิ่ง หรือพื้นหญ้า เด็กก็สามารถสร้างเกม แต่งเรื่อง และแก้ปัญหาได้เอง สิ่งนี้ช่วยหล่อหลอมทักษะ 4Cs ที่เรามองว่าสำคัญต่อทุกช่วงวัย ได้แก่ Collaboration (การร่วมมือ) Communication (การสื่อสาร) Critical Thinking (การคิดเชิงวิพากษ์) และ Creativity (ความคิดสร้างสรรค์)
3. ความยืดหยุ่นและการรับมืออุปสรรค: เมื่อเด็กหกล้ม ถูกรอยถลอก หงุดหงิดเพราะหอคอยบล็อกพัง หรือมีปัญหากับเพื่อนเรื่องกติกาเกม เด็กกำลังเรียนรู้ที่จะรับมือกับความผิดหวังและอุปสรรคในสภาพแวดล้อมที่ไม่เสี่ยงสูง การเผชิญความท้าทายเล็ก ๆ เหล่านี้สอนให้เด็กแก้ปัญหา ปรับตัว และไม่ยอมแพ้ โดยไม่ต้องมีผู้ใหญ่รีบเข้ามาช่วยแก้ สิ่งนี้จะค่อย ๆ หล่อหลอมความเข้มแข็งทางใจและอารมณ์ที่จำเป็นต่อการรับมือกับปัญหาที่ใหญ่ขึ้นในอนาคต
4. การเชื่อมโยงกับธรรมชาติ: การใช้เวลาอยู่กลางแจ้งช่วยให้เด็กพัฒนาความผูกพันและความรู้สึกซาบซึ้งต่อสิ่งแวดล้อมรอบตัว ทั้งการเรียนการสอนและเวลาพักของเราถูกออกแบบให้ใช้ประโยชน์จากพื้นที่กลางแจ้งที่สร้างโดยสถาปนิก Greendwell ซึ่งเน้นความยั่งยืนและความเป็นอยู่ที่ดี

การเล่นกลางแจ้งไม่ควรถูกมองว่าเป็นสิ่งฟุ่มเฟือยหรือเป็นเรื่องรอง

ที่โรงเรียนนานาชาติ SBS Bangkok เราเชื่อว่าการได้สัมผัสโลกภายนอกเป็นส่วนสำคัญและตั้งใจบรรจุไว้ในตารางเรียนทุกวัน การเล่นกลางแจ้งคือช่วงเวลาที่เด็กได้ยืดเส้นยืดสาย ปลอบประโลมจิตใจ และสร้างทักษะพื้นฐานที่จะทำให้พวกเขาประสบความสำเร็จทั้งในและนอกห้องเรียน ผมอยากเชิญชวนทุกท่านให้ร่วมกันจัดเวลาให้ลูก ๆ ได้อยู่กับธรรมชาติเป็นประจำ เพราะประโยชน์ของมันขยายออกไปไกลเกินกว่าที่สนามเด็กเล่นจะให้ได้